Digital ID ไทย: รู้จัก “ตัวตนดิจิทัล” ที่จะเปลี่ยนทุกธุรกรรมของคุณให้ง่ายและปลอดภัยกว่าเดิม
เคยไหมกับการต้องวุ่นวายหาเอกสาร ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนเพื่อทำธุรกรรมต่างๆ หรือต้องเดินทางไปที่สำนักงานเพื่อยืนยันตัวตน? ปัญหาเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นอดีต ด้วย Digital ID (ดิจิทัลไอดี) หรือ “ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล” ที่ภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับชีวิตคนไทยให้เข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Digital ID คืออะไร มีกี่ประเภท และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตของคุณได้อย่างไร
Digital ID คืออะไร? ไม่ใช่แค่บัตรประชาชนในมือถือ
หลายคนอาจเข้าใจว่า Digital ID คือการถ่ายรูปบัตรประชาชนเก็บไว้ในมือถือ แต่ความจริงแล้วซับซ้อนและปลอดภัยกว่านั้นมาก
Digital ID คือ รูปแบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนในโลกออนไลน์ ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและปลอดภัยเทียบเท่ากับการแสดงบัตรประชาชนตัวจริงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ มันเปรียบเสมือน “ร่างกายของเราในโลกดิจิทัล” ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเราคือเราจริงๆ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การสแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือ หรือการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้เราสามารถทำธุรกรรมสำคัญๆ ทางออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ
รู้จักผู้ให้บริการ Digital ID หลักในประเทศไทย
ปัจจุบัน ผู้ให้บริการ Digital ID ที่คนไทยควรรู้จักมีอยู่ 2 ส่วนหลักๆ คือ:
- NDID (National Digital ID):
- เปรียบเสมือน “ตัวกลาง” หรือ “สวิตช์” ที่เชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น ธนาคาร, บริษัทประกัน, และบริษัทหลักทรัพย์
- เมื่อคุณต้องการเปิดบัญชีกับธนาคาร B แต่เคยยืนยันตัวตนกับธนาคาร A ไว้แล้ว คุณสามารถให้ธนาคาร B ส่งคำขอยืนยันตัวตนผ่าน NDID ไปยังธนาคาร A ได้ โดยไม่ต้องไปที่สาขาของธนาคาร B เลย
- สถานะ: เป็นที่ยอมรับในภาคการเงินและการลงทุนอย่างกว้างขวาง
- แอปพลิเคชัน ThaID (ไทยดี):
- พัฒนาโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ถือเป็น “บัตรประชาชนดิจิทัล” จากภาครัฐโดยตรง
- ใช้สำหรับยืนยันตัวตนเพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐ เช่น การเช็กข้อมูลทะเบียนราษฎร, การยื่นภาษี, หรือใช้แสดงตนแทนบัตรจริงในสนามบิน (สำหรับเที่ยวบินในประเทศ)
- สถานะ: เน้นใช้กับบริการภาครัฐเป็นหลักและกำลังขยายความร่วมมือกับภาคเอกชน
Digital ID มีประโยชน์อย่างไร? ทำไมทุกคนต้องมี
- สะดวกสบายขั้นสุด: ลดขั้นตอน ไม่ต้องใช้เอกสารกระดาษ ไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา สามารถทำธุรกรรมสำคัญจากที่ไหนก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ปลอดภัยสูง เชื่อถือได้: การยืนยันตัวตนใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometrics) เช่น การสแกนใบหน้า ซึ่งปลอมแปลงได้ยากกว่าลายเซ็นหรือสำเนาบัตรอย่างสิ้นเชิง
- รวดเร็วทันใจ: กระบวนการยืนยันตัวตนทั้งหมดเสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่นาที จากเดิมที่อาจใช้เวลาเป็นวัน
- ลดต้นทุน: ทั้งฝั่งผู้ใช้และผู้ให้บริการต่างลดต้นทุนด้านการใช้กระดาษ การจัดเก็บเอกสาร และการเดินทาง
ปัจจุบัน เราใช้ Digital ID ทำอะไรได้บ้าง?
ตัวอย่างบริการที่คุณสามารถใช้ Digital ID ได้แล้ววันนี้ (ข้อมูล ณ กรกฎาคม 2025):
- เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์: ไม่ต้องไปสาขา แค่มีแอป Mobile Banking ของธนาคารที่คุณเคยลงทะเบียน NDID ไว้
- เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (หุ้น/กองทุน): ยืนยันตัวตนผ่าน NDID ได้อย่างรวดเร็ว
- ซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ: ทำสัญญาและอนุมัติกรมธรรม์ทางออนไลน์
- ขอสินเชื่อดิจิทัล: สมัครและยืนยันตัวตนเพื่อขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วม
- ใช้บริการภาครัฐ: ยื่นภาษีออนไลน์, ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร, หรือใช้แอป ThaID แทนบัตรประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ
วิธีสมัคร Digital ID ต้องทำอย่างไร?
คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ทั้ง 2 รูปแบบ ดังนี้
- การลงทะเบียน NDID: ส่วนใหญ่มักทำผ่านแอป Mobile Banking ของธนาคารที่คุณเป็นลูกค้าอยู่แล้ว โดยมองหาเมนู “NDID” หรือ “บริการ NDID” แล้วทำตามขั้นตอน ซึ่งมักจะมีการให้ถ่ายรูปบัตรประชาชนและสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนครั้งแรก (หรืออาจต้องไปที่ตู้ ATM / สาขาเพื่อเสียบบัตร)
- การลงทะเบียนแอป ThaID: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ThaID” จาก App Store หรือ Google Play จากนั้นทำตามขั้นตอนในแอป โดยเตรียมบัตรประชาชนตัวจริงไว้เพื่อถ่ายรูปและสแกนใบหน้า
บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการยืนยันตัวตน
Digital ID ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การมีตัวตนดิจิทัลที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ จะช่วยปลดล็อกให้เราสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไร้รอยต่อ ดังนั้น การเริ่มต้นทำความรู้จักและสมัครใช้งานตั้งแต่วันนี้ คือก้าวแรกที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง