เจ๊อ๋อ วรรณลี ปัญญาใส – จากเศรษฐี 90 ล้าน สู่ชีวิตสมถะที่อุดรธานี
เจ๊อ๋อ หรือ นางวรรณลี ปัญญาใส กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศหลังจากถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 มูลค่ารวม 90 ล้านบาท แต่ชีวิตหลังจากวันนั้นกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด
เรื่องราวของเธอสะท้อนให้เห็นว่า “เงินล้านไม่ใช่คำตอบของความสุขเสมอไป” และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนหันกลับมามองคุณค่าของชีวิตแบบเรียบง่าย
จุดเปลี่ยนชีวิต – จาก ‘เศรษฐี 90 ล้าน’ สู่ชีวิตที่พลิกไป
หลังจาก ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 15 ใบ รวมเป็นเงิน 90 ล้านบาท เจ๊อ๋อกลายเป็นข่าวดังในวงการหวยและโลกออนไลน์ แต่ไม่นานเธอก็มีเหตุให้ แยกทางกับอดีตสามี โดย แบ่งเงินให้เขาไป 30 ล้านบาท (อ้างอิงจากข่าวผู้จัดการออนไลน์)
เมื่อถึงปี 2565 เธอออกมายอมรับว่า
“ใช้เงินหมดแล้ว เพราะแจกเงินเยอะมาก คนที่เคยห้อมล้อมก็หายไป”
การมีเงินจำนวนมากไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขถาวร ตรงกันข้าม — มันกลับกลายเป็นบทเรียนราคาแพง
ชีวิตเรียบง่ายและสมถะ – รับจ้างดำนาวันละ 300 บาท
ปัจจุบัน เจ๊อ๋อ อายุ 51 ปี กลับมาใช้ชีวิตแบบชาวบ้านใน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี รับจ้างดำนา ค่าแรงวันละ 300 บาท
เธอเผยว่า:
“โคตรสบายเลย ไม่ต้องใช้เงินเยอะ บางวันใช้ไม่ถึง 100 บาท และบางวันก็ไม่ต้องใช้เลย”
เจ๊อ๋อมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ต้องมีใครมาห้อมล้อมเพราะเงิน และไม่ต้องกังวลว่าคนรอบตัวหวังผลประโยชน์
หลักคิดชีวิตจากกรณีของเจ๊อ๋อ
เรื่องราวของเจ๊อ๋อเตือนใจเราได้อย่างลึกซึ้งในหลายมิติ:
- เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต – แม้จะมีเงินถึง 90 ล้าน แต่สุดท้ายความสุขกลับมาจากชีวิตที่เรียบง่าย
- คนรอบตัวจะเปลี่ยนไปเมื่อเงินหมด – การให้มากเกินไปอาจไม่ใช่คำตอบ
- ความสุขที่แท้จริงอยู่ในวิถีพื้นบ้าน – การทำนา ทำบุญ และใช้ชีวิตอย่างพอเพียง สร้างความสงบในใจ
ข้อคิดจากชีวิตเจ๊อ๋อ
- เงินไม่ใช่ตัววัดความสุข – ความเรียบง่ายอาจนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง
- อาชีพทุกอย่างมีคุณค่า – ไม่ว่าจะเป็นรับจ้างดำนา ทำความสะอาด หรือเต้นหน้ารถแห่ ก็เป็นอาชีพที่สุจริต
- ความสุขใกล้ตัว – ได้อยู่กับครอบครัว ทำบุญ กินอยู่แบบไม่ฟุ่มเฟือย คือความสุขที่ยั่งยืน
บทสรุป
ชีวิตของเจ๊อ๋อ วรรณลี ปัญญาใส เป็นตัวอย่างที่ดีของ “การกลับไปหาต้นทุนชีวิต” แม้เคยร่ำรวยระดับเศรษฐี 90 ล้าน แต่สุดท้ายเธอเลือกความสงบเหนือความหรูหรา
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวดราม่า แต่คือ “บทเรียนชีวิต” ที่หลายคนควรหยุดและคิดว่า…
“เราใช้เงิน หรือเงินกำลังใช้เราอยู่กันแน่?”