ซี วี.ลีก 2025: ทัพลูกยางหนุ่มไทยฟอร์มแรง ล่าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน
การแข่งขันวอลเลย์บอลระดับอาเซียนที่แฟนๆ รอคอย “ซี วี.ลีก” (SEA V.League) ประจำปี 2025 ประเภททีมชาย ได้เปิดฉากขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ โดยทัวร์นาเมนต์ในปีนี้มีความพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ ด้วยการเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 5 ชาติ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และ กัมพูชา ซึ่งจะทำการแข่งขันกัน 2 สนามเพื่อหาแชมป์แห่งอาเซียน
สำหรับทัพนักตบลูกยางชายทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่าเมื่อปี 2024 ก็ออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรงในการแข่งขันสัปดาห์แรก ณ เมืองคันดอน ประเทศฟิลิปปินส์ (9-13 กรกฎาคม 2025) และกำลังอยู่ในเส้นทางของการป้องกันแชมป์
ผลงานสุดปังของทัพหนุ่มไทยในสนามแรก
ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของโค้ชและทีมงานชุดปัจจุบัน ประเดิมสนามได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม และยังไม่เสียเซตให้ใครในการแข่งขัน 2 วันแรก:
- นัดแรก (9 ก.ค.): ชนะ อินโดนีเซีย 3-1 เซต (22-25, 25-21, 25-22, 25-20)
- นัดที่สอง (10 ก.ค.): ชนะเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์ 3-0 เซต (25-16, 25-22, 26-24)
จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทำให้ทีมชาติไทยกลายเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ในสนามแรกไปครอง โดยมีโปรแกรมสำคัญในวันนี้ (11 ก.ค.) พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เวียดนาม
ขุมกำลังนักตบไทยและดาวเด่นที่น่าจับตา
สำหรับรายชื่อผู้เล่น 14 คนในสนามแรกนี้ นำทัพโดยผู้เล่นมากประสบการณ์และดาวรุ่งฟอร์มแรงผสมผสานกันอย่างลงตัว อาทิ:
- อมรเทพ คนหาญ: มือตบตรงข้ามหัวเสา (Opposite Hitter) ที่เป็นกำลังหลักในการทำคะแนน
- อนุรักษ์ พันธุ์รัมย์: ผู้เล่นตำแหน่งหัวเสาที่มีเกมบุกที่ดุดัน
- ประเสริฐ ปิ่นแก้ว และ กฤษฎา นิลไสว: สองผู้เล่นบอลเร็วที่คอยสร้างปัญหาให้แนวรับคู่ต่อสู้
- บุญญฤทธิ์ วงศ์ธร: มือเซตมากประสบการณ์ที่คอยบัญชาเกมในสนาม
ภาพรวมการแข่งขันและคู่แข่งสำคัญ
ในปีนี้ นอกจากทีมแกร่งอย่างอินโดนีเซียและเวียดนามแล้ว เจ้าภาพฟิลิปปินส์ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม โดยสามารถเอาชนะเวียดนามได้ในนัดเปิดสนาม ทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงอันดับในตารางคะแนนเป็นไปอย่างสนุกสูสี ทุกทีมต่างมองว่าทัวร์นาเมนต์นี้คือเวทีสำคัญในการเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกใหญ่ปลายปีอย่าง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ
แฟนวอลเลย์บอลชาวไทยต้องร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักตบหนุ่มไทยทำผลงานให้ดีที่สุดต่อเนื่อง เพื่อคว้าแชมป์ทั้งสองสนาม และสร้างความมั่นใจก่อนการแข่งขันซีเกมส์ต่อไป โดยหลังจบสนามแรกที่ฟิลิปปินส์ ทัพนักกีฬาจะเดินทางไปแข่งขันต่อในสนามที่ 2 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 16-20 กรกฎาคมนี้