Phrathat Pha Ngao Temple, Chiang Rai

เชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย ซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศของเทือกเขาที่สลับซับซ้อนและวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย

อาทิ วัดพระธาตุผาเงา วัดร่องขุ่น ซึ่งออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสีขาวอันวิจิตรตระการตา ตลอดจนวัดมิ่งเมือง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของเชียงราย วัดร่องเสือเต้น วัดห้วยปลากั้ง และพิพิธภัณฑ์บ้านดำซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ส่วนใครที่ชอบท่องเที่ยวสายธรรมชาติก็สามารถขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเหนือริมโขงและทะเลหมอกในยามเช้าได้ที่ดอยผาตั้ง สัมผัสความหนาวฉ่ำพร้อมชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศาที่ภูชี้ดาว เยือนไร่ชาฉุยฟง ชมดอกไม้เมืองหนาวที่สวนแม่ฟ้าหลวงรอบพระตำหนักดอยตุง หรือย้อนรอยเหตุการณ์ “13 หมูป่าติดถ้ำ” ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน นอกจากนี้ ด้วยความที่เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างไทย พม่า และลาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถชมวิวทิวทัศน์ของสองฝั่งโขงได้ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และเที่ยวตลาดแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก บริเวณชายแดนไทย-พม่าได้อีกด้วย


ดอยผาตั้ง
อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 25 กิโลเมตร เป็นจุดชมทัศนียภาพไทย-ลาว และชมทะเลหมอกได้ตลอดปี ในเดือนธันวาคม-มกราคม มีดอกซากุระและดอกเสี้ยวบานสะพรั่ง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ปัจจุบันชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ แอปเปิล และชา

ดอยผาตั้งมีจุดชมวิวช่องผาบ่อง เป็นช่องหินขนาดใหญ่ มองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว หากเดินเท้าต่อไปอีก 1 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิว 103 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน จุดชมวิวแห่งใหม่อยู่ทางด้านเหนือของดอยผาตั้ง คือจุดชมวิวเนิน 104 สูงประมาณ 1,570 เมตร ลักษณะเป็นสันเขาโล่ง ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสลับก้อนหินขนาดใหญ่ สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา บริเวณเนิน 104 ไม่มีที่พักและไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ หากต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้น นักท่องเที่ยวต้องนัดรถโฟร์วีลไดรฟ์มารับ-ส่งจากที่พักก่อนเวลา 05.30 น. เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว หรือขับรถยนต์ส่วนตัวไปจอดไว้ ณ โรงเรียนบรรพตวิทยา และนัดหมายรถโฟร์วีลไดรฟ์ให้มารับ ราคาค่ารถเหมาไปกลับ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 10 คน คันละ 500 บาทระยะทางราว 1.8 กิโลเมตร เส้นทางเป็นทางวิบาก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถึงลานจอดรถ จากนั้นต้องเดินเท้าตามสันเขาซึ่งเป็นทางราบและทุ่งหญ้าประมาณ 350 เมตร ต่อด้วยปีนป่ายก้อนหินอีกประมาณ 50 เมตร ในเขตบ้านผาตั้ง ตามเส้นทางจะมีบริการที่พัก สถานที่กางเต็นท์ และร้านอาหาร สอบถามข้อมูล องค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทร. 0 5360 2742 คิวรถโฟร์วีลผาตั้ง คุณมะนาว โทร. 09 6412 7488 ประธานกลุ่มรถขึ้นผาตั้ง 104 โทร. 08 5131 6266 พ่อหลวงบ้านผาตั้ง โทร. 08 0282 9883 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผาตั้ง โทร. 09 1820 1127

Singha Park, Chiang Rai Published in Singha Park Adventure, Osotho Magazine, Issued : January, 2015 *** Local Caption *** สิงห์ ปาร์ค หรือ ไร่บุญรอด จังหวัดเชียงราย ในสารคดี เที่ยวสนุก บุกแดนสิงห์ อนุสาร อ.ส.ท. ประจำเดือนมกราคม 2558

สิงห์ปาร์ค
ได้รับตรามาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

มีการทำความสะอาดสถานที่อย่างสม่ำเสมอ
มีจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์หรือจุดล้างมือ
มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ
มีการเช็คอินไทยชนะ
นักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัย
พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัย
รักษาระยะห่าง เช่น มีแผ่นกั้นที่เคาน์เตอร์



สวนแม่ฟ้าหลวง
ที่นี่คือสวนสวยที่สุดของเมืองเชียงรายที่การันตีด้วยรางวัลพาตา โกลด์ อวอร์ด (PATA Gold Award) ประเภทรางวัลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีเนื้อที่ราว 30 ไร่ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง ทั้งนี้ สวนแม่ฟ้าหลวงเกิดขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ต้องการให้คนไทยได้เห็นความสวยงามของไม้ดอกเมืองหนาว โดยภายในสวนจะมีการดูแลและปรับเปลี่ยนดอกไม้นานาพันธุ์ให้สวยงามตลอดเวลา และไม่ซ้ำแบบกันในแต่ละฤดูกาล โดยไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายภาพมากที่สุดคืองานประติมากรรมของนางมิเซียม ยิบอินซอย ที่ประดับอยู่กลางสวนซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงพระราชทานชื่อว่า “ความต่อเนื่อง” (Continuity) อันหมายถึงการทำงานใด ๆ จะสำเร็จได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และได้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่แสดงให้ทุกคนรู้ว่า คุณได้มาเยือนสวนสวยแห่งนี้แล้ว

The Fourth Thai-Lao Friendship Bridge (Chiang Khong-Huay Sai), Chiang Rai Published in Chi Fa- Wiang Kaen-Chiang Khong It is all about mountain and river. Osotho Magazine, issued:January,2019 Page 33

เชียงของ
อำเภอเชียงของเป็นที่ตั้งของท่าเรือบั๊ค จุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทย-ลาว ริมฝั่งแม่น้ำโขง มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถข้ามไปฝั่งลาวได้โดยติดต่อที่ว่าการอำเภอเชียงของ พร้อมรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ชุด และค่าธรรมเนียม 30 บาท ค่าผ่านด่านลาว 90 บาท หรือใช้พาสปอร์ต (ไม่ต้องทำวีซ่า) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องขอวีซ่าจากสถานทูตหรือจากด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาว (ด่านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. จากจุดนี้สามารถเดินทางท่องเที่ยวโดยเรือไปถึงหลวงพระบาง สปป.ลาว และกลับเข้าประเทศไทยที่จังหวัดหนองคายได้ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ โทร. 0 5379 1663, 0 5379 1332

Klang Wiang Temple, Chiang Rai

วัดกลางเวียง
เปลี่ยนจากวัดเดิมคือ วัดจันทน์โลก หรือ จั๋นต๊ะโลก มาเป็นวัดจันทน์โลกกลางเวียง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ กลางเวียง เพราะยุคนั้น วัดนี้คือศูนย์กลางของเวียงเชียงราย เป็นที่ตั้งของ “สะดือเวียงเชียงราย”

ความสำคัญของวัดกลางเวียงแห่งนี้ ไม่เพียงเป็นวัดที่มีความสวยงามและตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงรายเท่านั้น หากยังเป็นวัดที่มีการสร้างสะดือหรือเสาหลักเมืองเชียงรายไว้ภายในบริเวณวัดด้วยเช่นกันโดยเดิมชื่อวัดจั๋นต๊ะโลก หรือวัดจันทน์โลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1975 เหตุที่มีชื่อนี้เพราะมีต้นจันทน์แดงขนาดใหญ่ขึ้นตามธรรมชาติอยู่ภายในบริเวณวัด และต้นจันทน์แดงนี้เองที่เป็นไม้มงคลตามธรรมเนียมโบราณ ทว่าเมื่อกาลเวลาล่วงผ่าน ไม้ต้นนี้ก็ได้หักโค่นลง นอกจากนี้ในคราวที่สร้างเมืองเชียงรายครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2417 ได้มีการรังวัดจาก 4 มุมเมือง แล้วพบว่าใจกลางของเมืองเชียงรายนั้นอยู่ที่วัดจั๋นต๊ะโลกพอดี จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดกลางเวียงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สำหรับเสาหลักเมืองที่แต่เดิมได้มีการสร้างขึ้นและโค่นล้มลงไปเนื่องจากไม่มีความแข็งแรงนั้น ในปี พ.ศ. 2535 พระครูศาสนกิจโกศล เจ้าอาวาสและคณะ ที่มีความศรัทธาได้ร่วมกันสร้างหลักเมืองขึ้นมาใหม่แทนของเดิมและตั้งอยู่ที่เดิมโดยสร้างมณฑปทรงฟักทองยอดแหลมครอบไว้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมีพระชนมายุครบ 5 รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 และยังยืนหยัดอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยรอบมณฑปนั้นมีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาล ทำหน้าที่พิทักษ์สะดือเวียงเอาไว้ตามคติความเชื่อล้านนา ส่วนบริเวณที่เคยมีต้นจันทน์แดงอยู่นั้นได้มีการสร้างเจดีย์ทับ โดยรอบฐานเจดีย์นี้มีช้างทรงเครื่องยืนเรียงราย และได้มีการสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่ตามแบบศิลปะล้านนาประยุกต์ที่มีความสวยงามร่วมสมัย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 5376 8187

ข้อมูลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่น่าสนใจ