วิธีการเปลี่ยน Verb ให้เป็น Nouns ในภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว

วิธีการเปลี่ยน Verb ให้เป็น Nouns ในภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว
คำกริยาหลายคำในภาษาอังกฤษสามารถถูกแปลงให้อยู่ในรูปคำนามได้โดยง่ายเพียงแค่เพิ่มคำลงท้ายเข้าไป และยังสามารถเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามได้ขึ้นกับเนื้อหาของประโยค บางครั้งการใช้รูปคำนามของคำกริยาสามารถทำให้ดูเข้าใจยากและเป็นศัพท์เฉพาะกลุ่ม ใช้วิจารณญาณก่อนหากจะเปลี่ยนคำกริยาเป็นรูปคำนามเพื่อให้เขียนออกมาได้ชัดเจนและกระชับได้ใจความ โดยอาจมีความยุ่งยากเล็กน้อยในการต้องเปลี่ยนแปลงคำรอบข้างหากคุณไม่ใช่เจ้าของภาษา แต่ก็อย่าได้ท้อใจเพียงแค่ใช้เวลาและความอดทนสักหน่อยก็จะสามารถเข้าใจการเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามได้เป็นอย่างดี
วิธีการที่ 1 เพิ่มคำลงท้าย

1
เติม “-ance” หรือ “-ence” เข้าไปที่คำกริยา. มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเป็นคำนามด้วยการเติมคำลงท้าย “-ance” หรือ “-ence” ตัวอย่างเช่น คำกริยาว่า “appear” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “appearance” คำกริยาว่า “resist” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “resistance” ได้เติม “-ance” หรือ “-ence” เข้าไปที่คำกริยา. มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเป็นคำนามด้วยการเติมคำลงท้าย “-ance” หรือ “-ence” ตัวอย่างเช่น คำกริยาว่า “appear” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “appearance” คำกริยาว่า “resist” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “resistance” ได้
- ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค “He appeared on many talk shows while promoting his book.” หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า “He made many talk show appearances while promoting his book.”
2
เติม “-ment” เข้าไปที่คำกริยา. ยังมีคำกริยาอื่นๆ อีกที่ต้องใช้คำลงท้ายด้วย “-ment” เพื่อเปลี่ยนเป็นคำนาม ตัวอย่างเช่น “appoint,”, “assign,” and “enjoy” สามารถเปลี่ยนเป็น “appointment,” “assignment,”และ “enjoyment”
- ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค “The man enjoyed his lunch.” หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า “The man’s lunch brought him enjoyment.”
3
เติม “-tion” หรือ “-sion. คำลงท้ายด้วย “-tion” หรือ “-sion มักเป็นคำลงท้ายของคำนามหลายคำ มีคำกริยามากมายที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนคำนามด้วยการใช้คำลงท้ายเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น “inform”, “decide” และ”describe” สามารถเปลี่ยนไปเป็น “information,” “decision,” และ”description”
- ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค “He decided to decline the job offer.”หากคุณต้องการเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ควรใช้ว่า “He made the decision to decline the job offer.”
วิธีการ 2 ปรับเปลี่ยนรูปประโยค

1
หาตำแหน่งคำกริยา. คำกริยาเป็นคำบอกอาการ อธิบายการกระทำบางสิ่งบางอย่างในประโยค หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนประโยคเพื่อเปลี่ยนจากคำกริยาเป็นคำนาม หาตำแหน่งของคำกริยาและดูว่าสามารถเป็นคำนามด้วยได้หรือไม่
- ตัวอย่างเช่น ลองดูที่ประโยค “The film impacted the students.” คำกริยาคือ “impacted”
- อีกตัวอย่างเช่น “The athlete prepared to run.” คำกริยาของประโยคคือ “run” (แม้ “prepared” ก็เป็นคำกริยาเช่นเดียวกัน)
2
ใส่คำนำหน้านามที่เหมาะสม. คำนำหน้านามอย่างเช่นคำว่า “the” หรือ “a” ซึ่งมักบ่งบอกว่าคำที่ตามมาคือคำนาม ในการเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามในประโยค ให้เติมคำนำหน้านามไว้ด้านหน้าคำนาม
- หากคุณจะเปลี่ยนคำว่า “impacted” เป็นคำนาม จำเป็นจะต้องใช้คำนำหน้านามว่า “an” หรือใช้คำนำหน้านามว่า “the”
- ในการเปลี่ยนคำว่า “run” เป็นคำนาม จำเป็นจะต้องใช้คำนำหน้านามว่า “the” หรือใช้คำนำหน้านามว่า “a”
3
เรียบเรียงประโยคใหม่. เมื่อคุณใส่คำนำหน้านามลงไป คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนประโยคให้ยาวขึ้น คำกริยาอาจจะจำเป็นต้องถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้กลายเป็นคำนามและประโยคอาจจะต้องมีการเรียงใหม่เล็กน้อย
- ตัวอย่างเช่น “The film impacted the students.” สามารถเปลี่ยนได้เป็น “The film had an impact on the students.”
- อีกตัวอย่างเช่น “The athlete prepared to run.” สามารถเปลี่ยนได้เป็น “The athlete prepared for a run.”
วิธีการ 3 หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ

1
ค้นหาข้อมูลจากพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าใช้คำลงท้ายถูกหรือไม่. หากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของคุณ หารใช้คำลงท้ายเมื่อต้องการเปลี่ยนคำกริยาอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก มีกฎที่ไม่ยากและใช้ได้อย่างรวดเร็ว อย่ากังวลที่จะเปิดพจนานุกรมหลังเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนาม เพราะตรวจดูอีกครั้งก็ไม่ได้เสียหายอะไร
2
หลีกเลี่ยงการสนทนาโดยใช้ศัพท์เฉพาะวงการ. หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามในรูปที่เข้าใจได้ยาก เป็นเพราะว่ามักจะใช้ศัพท์ที่เฉพาะวงการมากๆ คำศัพท์ที่ใช้ในวงการธุรกิจ คอมพิวเตอร์ หรือกีฬา สามารถกลายเป็นคำศัพท์เฉพาะที่ไม่มีความหมายไปเลยหากนำมาแปลงจากกริยาเป็นรูปคำนาม
- ตัวอย่างเช่น จากประโยค “The boss conducted an investigation about the allegations” เป็นการใช้คำค่อนข้างฟุ่มเฟือย สามารถเขียนให้ง่ายขึ้นเป็น “The boss investigated the allegations.”
- อย่างเช่นหากจะพูดว่า “The team did a review of the tape” หากทำให้ประโยคดูลื่นไหลมากขึ้นควรใช้เป็น “The team reviewed the tape.”
3
ใช้การกลับประโยคหากสามารถสื่อความได้ดีกว่า. การใช้คำนามแทนรูปกริยาสามารถช่วยลดเรื่องอารมณ์และสื่อได้ตรงวัตถุประสงค์มากขึ้น หากต้องเจอกับข้อมูลที่มีผลต่อจิตใจ จะเป็นการดีที่ต้องมีเทคนิคการพูดสักเล็กน้อย ต้องระวังการใช้บทสนทนาและการใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมสื่อสารกับอีกฝ่าย
- ตัวอย่างเช่น จากประโยค “He retaliated by filing a lawsuit.” ประโยคนี้เป็นประโยคที่อยู่ในสถานการณ์ที่มีผลต่อจิตใจ คุณอาจจะต้องเลือกใช้ประโยคที่สุภาพขึ้น โดยสามารถใช้รูปคำนามในการเขียนลงไปให้มีผลต่อประโยคมากขึ้นได้เป็น “The lawsuit may have been a form of retaliation.”
ขอบคุณข้อมูลจาก : th.wikihow
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Language Academia. Language Academia เป็นโรงเรียนสอนภาษาแบบออนไลน์ของเอกชนซึ่งก่อตั้งโดยคอร์ดีเลีย ฟ็อกซ์สโตน คอร์ดีเลียและทีมของเธอเชี่ยวชาญในการสอนภาษาต่างประเทศและการลดสำเนียง Language Academia มีหลักสูตรสอนภาษาหลายภาษาซึ่งได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน และภาษาจีนกลาง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑http://www.englishlessonsbrighton.co.uk/how-to-use-suffixes-to-create-nouns-from-adjectives-and-verbs/
- ↑http://www.englishlessonsbrighton.co.uk/how-to-use-suffixes-to-create-nouns-from-adjectives-and-verbs/
- ↑http://www.englishlessonsbrighton.co.uk/how-to-use-suffixes-to-create-nouns-from-adjectives-and-verbs/
- ↑https://en.oxforddictionaries.com/grammar/verbs-from-nouns
- ↑https://en.oxforddictionaries.com/grammar/verbs-from-nouns
- ↑https://en.oxforddictionaries.com/grammar/verbs-from-nouns
- ↑https://opinionator.blogs.nytimes.com/2013/03/30/those-irritating-verbs-as-nouns/
นอกจากนี้ท่านยังสามารถ อัพเดต ติดตามข้อมูลข่าวสาร แผนการจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน รวมถึงสาระดีดี ได้ที่ www.krumaiiam.com
Facebook Fanpage : krumaiiam เพราะเราคือครูรุ่นใหม่
Facebook Fanpage : วิถีครูเวร
Facebook Group: แบ่งปันสื่อการสอน by krumai