เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน

0

เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (239) 成语故事 (二三九)

ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search/ 

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 一毛不拔yī máo bù bá (อี เหมา ปู้ ป๋า)   โดย คำว่า 一 yī (อี) แปลว่าหนึ่ง จำนวนนับหนึ่ง 毛 máo (เหมา) แปลว่า ขน เส้นขน 不 bù (ปู้) แปลว่า ไม่ ไม่ยอม 拔 bá (ป๋า) แปลว่า ถอน ถอนขน ถอนหญ้า รวมกันแล้วหมายถึง ไม่ยอมถอนขนสักเส้น ใช้อธิบายถึงคนที่มีความขี้เหนียวเห็นแก่ตัวมาก แม้ว่าขนหนึ่งเส้นของเขาจะมีประโยชน์ต่อผู้คนมากมาย แต่ก็จะไม่ยอมถอน

ประเทศจีนในช่วงยุครัฐศึกตอนต้น 战国初期 /戰國初期 Zhànɡuó chūqí (จ้านกั๋ว ชูชี) แม้ว่าจะเป็นยุคที่มีแต่ความแตกแยก มีศึกสงครามระหว่างรัฐต่างๆ มิหยุดหย่อน ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงของแต่ละเจ้าเมือง จึงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไปทุกหย่อมหญ้า แต่ในยุคนี้ก็เป็นยุคเฟื่องฟูทางความคิดของเหล่านักคิดนักปราชญ์ด้วยเช่นกัน พวกเขาเหล่านี้พยายามคิดหาหนทางที่จะแก้ไขปัญหาสังคมที่วุ่นวายนี้ ตามที่ตนเองเข้าใจว่าดีที่สุด

นักคิดนักปราชญ์ผู้เลี่องชื่อคนหนึ่งของรัฐเว่ย 魏国 /魏國 Wèi ɡuó (เว่ยกั๋ว) นามว่า หยางจู 杨朱 /楊朱  Yánɡ Zhū เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการดำรงตนว่า “ตนเป็นสำคัญ” ก็คือให้ความสำคัญกับการปกป้องรักษาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย ต่อต้านผู้อื่นมาทำร้าย หรือแย่งชิงสมบัติแห่งตน ต่อต้านการรังแกผู้อื่น ในขณะเดียวกัน ก็มีนักปราชญ์แห่งยุคคนหนึ่งนามว่า มั่วจื่อ 墨子 Mò zǐ เขากลับนำเสนอแนวคิดตรงข้ามกับหยางจู ให้ความสำคัญกับความรัก สันติสุข ต่อต้านการทำสงครามรุกราน ทุกคนควรปฏิบัติต่อกันฉันญาติพี่น้อง

เมื่อความคิดของทั้งสองค่ายแตกต่างกัน ย่อมต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิด จึงมีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ของมั่วจื่อคนหนึ่ง ได้ถามกับหยางจูว่า ถ้าหากขอถอนขนบนตัวท่านสักเส้นแล้ว จะสามารถแก้ปัญหาที่สังคมกำลังเผชิญอยู่ได้ ท่านยินดีที่จะให้ถอนหรือไม่ หยางจูตอบว่าปัญหาสังคม ไหนเลยจะแก้ได้ด้วยเส้นขนเพียงเส้นเดียวของข้าพเจ้าได้ ลูกศิษย์มั่วจื่อพูดต่อว่า สมมติว่าขนเส้นเดียวของท่าน แก้ปัญหาได้จริงๆ ท่านจะยอมไหม หยางจูได้แต่เงียบไม่ตอบคำถาม

ต่อมา เมิ่งจื่อ 孟子 Mènɡ zǐ นักปราชญ์แห่งสำนักหรู 儒家 Rújiā (หรูเจีย) สรุปเหตุการณ์ครั้งนี้โดยอธิบายไว้ว่า หยางจูผู้มีแนวคิดตนเป็นสำคัญ ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์แห่งตน แม้ขนเพียงเส้นเดียวที่จะช่วยเหลือสังคมใต้หล้าได้ เขาก็ไม่ยอมที่จะให้ถอนเลย ส่วนมั่วจื่อ กลับมีความคิดจะช่วยเหลือใต้หล้าอย่างสุดกำลัง สองค่ายช่างแตกต่างกันมาก ด้วยคำว่าขนสักเส้นก็ไม่ยอมให้ถอนนี้ ต่อมาจึงกลายเป็นสุภาษิตที่แสดงถึงความขี้เหนียวแบบสุดๆ ของคนบางคนนั่นเอง

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:非常吝啬自私。

成語比喻:非常吝嗇自私。

Chénɡyǔ bǐyù:Fēichánɡ lìnsè zìsī.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่ :  เฟยฉาง ลิ่นเซ่อ จื้อซือ

สุภาษิตเปรียบว่า ขี้เหนียวและเห็นแก่ตัวมาก

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

他真是个一毛不拔的人,难怪没有谁会喜欢他。

他真是個一毛不拔的人,難怪沒有誰會喜歡他。

Tā zhēnshi ɡè yīmáobùbá de rén, nánɡuài méiyǒu shéi huì xǐhuān tā.

ทา เจินฉื้อ เก้อ อีเหมาปู้ป๋า เตอะ เหริน, หนานไกว้ เหมยโหย่ว เฉย หุ้ย สี่ฮวาน ทา

เขาช่างเป็นคนขี้เหนียวจริงๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครชอบเขา

ที่มาคอลัมน์ “เรียนไทยได้จีน”
ผู้เขียนอ.ซ่อซิง เมธาธารณ์กุล ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร ม.แม่ฟ้าหลวง
matichon online

นอกจากนี้ท่านยังสามารถ อัพเดต ติดตามข้อมูลข่าวสาร แผนการจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน รวมถึงสาระดีดี ได้ที่ www.krumaiiam.com
Facebook Fanpage : krumaiiam เพราะเราคือครูรุ่นใหม่
Facebook Fanpage : วิถีครูเวร
Facebook Group: แบ่งปันสื่อการสอน by krumai

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed