วิธีอธิบายให้เด็กฟังว่าเวลาคืออะไรและอ่านนาฬิกาอย่างไร

วิธีอธิบายให้เด็กฟังว่าเวลาคืออะไรและอ่านนาฬิกาอย่างไร

มนุษยชาติใช้เวลาหลายพันปีในการทำความเข้าใจว่าเวลาคืออะไรและเรียนรู้ที่จะวัดมัน ดังนั้น อย่าผิดหวังหากลูกของคุณยากจะจดจำว่าปี เดือน วันในสัปดาห์ ชั่วโมงและนาทีคืออะไร เป็นการดีกว่าที่จะเรียนรู้แนวคิดเหล่านี้ทีละน้อยทีละน้อย

Krumaiiam จะบอกคุณเกี่ยวกับคำแนะนำและเคล็ดลับที่อาจเป็นประโยชน์ในการอธิบายแนวคิดเรื่องเวลาให้เด็กๆ ฟัง และสอนให้พวกเขาใช้ปฏิทินและนาฬิกา

แนวคิดเรื่องเวลา ปี ฤดูกาล และเดือน

ในชีวิตประจำวันของเรา เราใช้เวลาเพื่อวัดและเปรียบเทียบระยะเวลาของเหตุการณ์บางอย่าง ช่วงเวลาระหว่างเหตุการณ์ หรือแม้แต่ลำดับของเหตุการณ์ ตัวอย่างเช่น ฤดูหนาวอยู่ก่อนฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ผลิอยู่ก่อนฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงอยู่หลังฤดูร้อน และฤดูหนาวอยู่หลังฤดูใบไม้ร่วง เหล่านี้เป็นฤดูกาลที่รวมกันเป็นเวลา 1 ปี ทุกฤดูกาลมีลักษณะเฉพาะของตัวเองและแต่ละฤดูกาลมีระยะเวลา 3 เดือน

หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งวาดวงกลมขนาดใหญ่แล้วตัดออก พับครึ่งแล้วพับครึ่งอีกครั้ง เปิด: เส้นพับจะแบ่งวงกลมออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน – หนึ่งส่วนสำหรับแต่ละฤดูกาล ตอนนี้ ร่วมกับลูกของคุณ ให้จดชื่อฤดูกาลและระบายสี

แยกแต่ละส่วนจาก 4 ส่วนออกเป็น 3 ส่วนคู่กัน — จะเป็นเดือนที่ฤดูกาลประกอบด้วย เขียนชื่อตามลำดับที่ถูกต้อง

พูดคุยกับบุตรหลานของคุณและค้นหาว่าพวกเขาจำอะไรได้บ้างในบางเดือน (เหตุการณ์และกระบวนการ) ตัวอย่างเช่น ในเดือนธันวาคม เราฉลองคริสต์มาส ในเดือนเมษายน เรามีดอกไม้ และในเดือนกรกฎาคม เราจะกินแตงโม

ในแต่ละเดือน ให้วาดภาพว่าเด็กจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิธีนี้จะช่วยให้พวกเขาจดจำวัฏจักรและลำดับของเดือนได้

แนะนำให้ลูกของคุณทำเครื่องหมายเดือนที่ญาติและเพื่อนของพวกเขามีวันเกิด: เพิ่มการเขียน สติ๊กเกอร์ตลก และรูปถ่ายของสมาชิกในครอบครัว วางปฏิทินไว้ที่ใดที่เด็กสามารถมองเห็นได้

นอกจากนี้ ทุกต้นเดือน คุณสามารถขอให้บุตรหลานของคุณทำเครื่องหมายชื่อของพวกเขาในปฏิทิน และเพิ่มสติกเกอร์และภาพวาดใหม่

เดือน สัปดาห์ และวัน ประกอบด้วย

เมื่อลูกของคุณเข้าใจว่า 1 ปีคืออะไร (4 ฤดูกาลและ 12 เดือน) ให้จดปฏิทินปกติโดยที่แต่ละเดือนจะแยกจากกัน

แสดงให้ลูกของคุณเห็นและดึงความสนใจไปที่สิ่งเหล่านี้:

• 1 ปีย่อมเป็น 12 เดือนที่ต่างกันเสมอ
• เดือนใด ๆ คือ 4 สัปดาห์เต็ม แต่อาจมีจำนวนวันที่ต่างกัน: ตั้งแต่ 28 ถึง 31
• ทุกสัปดาห์มี 7 วันที่แตกต่างกัน แต่ละวันในสัปดาห์มีชื่อเป็นของตัวเอง

เพื่อให้จินตนาการถึงช่วงเวลาเหล่านี้ได้ดีขึ้น ให้ค้นหาหน้าปฏิทินของเดือนปัจจุบัน ร่วมกันนับจำนวนวันในเดือน พูดชื่อวันธรรมดาตามลำดับที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ให้อธิบายว่าวันหยุดและวันหยุดสุดสัปดาห์แตกต่างจากวันธรรมดาเนื่องจากแบบอักษรเป็นสีแดง

การใช้สติกเกอร์และเครื่องหมาย แนะนำให้บุตรหลานทำเครื่องหมายเหตุการณ์สำคัญบางอย่างในเดือนปัจจุบัน เช่น ไปร้านพิซซ่า ดูฟุตบอล ฉลองวันเกิดของใครบางคน เป็นต้น เมื่อทำเครื่องหมายวันใดวันหนึ่ง ให้พูดชื่อและระบุตำแหน่งที่สัมพันธ์กับช่วงเวลาปัจจุบัน เช่น “วันพุธหน้า เราจะไปร้านพิซซ่า” หรือ “วันเสาร์ที่แล้ว คุณเล่นกับเพื่อน” เพิ่มสติกเกอร์ใหม่พร้อมกิจกรรมใหม่ตลอดทั้งเดือน

ต้นเดือนหน้า ไปที่หน้าถัดไปและทำเครื่องหมายกิจกรรมที่วางแผนไว้แล้วเพิ่มกิจกรรมใหม่ หากต้องการ คุณสามารถแนะนำให้บุตรหลานทำเครื่องหมายวันด้วยวงกลม

ด้วยวิธีนี้ เด็กจะได้เรียนรู้การใช้ปฏิทิน เปรียบเทียบเดือน เรียนรู้วันในสัปดาห์ วางแผนกิจกรรม และเปรียบเทียบกิจกรรมที่ผ่านมากับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น

เมื่อลูกควรถูกสอนให้อ่านนาฬิกา

กระบวนการเรียนรู้เวลาสามารถแบ่งออกเป็นหลายส่วนและแนะนำให้เด็กรู้จักช้าขึ้นอยู่กับอายุ

• 5-6 ปี: เด็กสามารถเข้าใจชั่วโมงครึ่งชั่วโมงบนนาฬิกาอะนาล็อกปกติและวาดได้

• 6-7 ปี: เด็กรู้อยู่แล้วว่าใน 1 ชั่วโมงมีกี่นาทีและใน 1 วันมีกี่ชั่วโมง และพวกเขายังรู้ว่าหนึ่งในสี่ของชั่วโมงคืออะไรและสามารถอ่านนาฬิกาได้

• 7-8 ปี: เด็กสามารถอ่านนาฬิกาในรูปแบบ 12 และ 24 ชั่วโมงและเข้าใจตัวเลขโรมันได้ พวกเขาสามารถเปรียบเทียบเวลาและใช้คำและคำบางคำที่เกี่ยวข้องกับเวลา

แบบฝึกหัดที่มีประโยชน์

สอนลูกของคุณให้นับ ในการอ่านนาฬิกา เด็กๆ ควรรู้ตัวเลขทั้งหมดไม่เกิน 60 และนับตามลำดับที่ถูกต้อง พวกเขาควรจะสามารถเข้าใจวิธีการจินตนาการ 1 ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 5 นาทีหรือ 1 นาทีเป็นเวลา 5 วินาที ลองนับถึง 60 ในห้า: 60: 5, 10, 15, 20, 25, 30, 35, 40, 45, 50, 55 และ 60

แนะนำบุตรหลานของคุณให้รู้จักกับแนวคิดเรื่องกลางวันและกลางคืน พูดคุยถึงสิ่งที่ลูกของคุณมักจะทำในตอนเช้า ระหว่างวัน ในตอนเย็น และตอนกลางคืนเพื่อเชื่อมโยงช่วงเวลาต่างๆ ของวันกับกิจกรรมของพวกเขา

วัน ประกอบด้วยอะไร และ 1 ชั่วโมงกับ 1 นาทีคืออะไร

1 ส่วนของทุกๆ 24 ชั่วโมงเป็นช่วงกลางวันและอีกส่วนหนึ่งเป็นช่วงกลางคืน มันเกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แต่เวลากลางวันและกลางคืนค่อนข้างนานและสามารถเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นทุกวันจึงแบ่งออกเป็นช่วงเวลาที่สั้นลง

ร่วมกับลูกของคุณดูภาพด้านบน เป็น 1 วันในรูปแบบต่างๆ:

• ใน 24 ชั่วโมง ทุก ๆ ชั่วโมงจะมีตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันตั้งแต่ 0 ถึง 24

• ใน 12 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกรณีนี้ เราแบ่ง 1 วันเป็น 2 รอบ แต่ละ 12 ชั่วโมง เมื่อคุณพูดชื่อชั่วโมง คุณต้องระบุว่าคุณหมายถึงส่วนใดของวัน: 6:00 น. หรือ 18:00 น.

โดยส่วนใหญ่ นาฬิกาดิจิตอลจะแสดงรูปแบบ 24 ชั่วโมงและนาฬิกาอะนาล็อก — 12 ชั่วโมง คุณสามารถค้นหานาฬิกาที่มีเวลา 24 ชั่วโมง การเรียนรู้การอ่านนาฬิกาอะนาล็อกปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แสดงภาพนาฬิกาด้านบน คุณสามารถดูไม่เพียงแต่ชั่วโมงแต่ยังดูนาที และมีคำใบ้ว่าเราเรียกว่าครึ่งชั่วโมงครึ่งชั่วโมง

อธิบายให้ลูกฟังว่ามือแต่ละข้างชี้ไปอะไร ไปในทิศทางใด และเร็วแค่ไหน ทำให้ชัดเจนว่าเข็มชั่วโมงชี้ไปที่ตัวเลขเป็นชั่วโมงและเข็มนาทีชี้ไปที่ตัวเลขเดียวกัน แต่หมายถึงตัวเลขอื่นๆ ตัวอย่างเช่น:

• เข็มชั่วโมงที่ชี้ไปที่ 2 บอกเราว่าเป็นเวลา 2 นาฬิกา

• เข็มนาทีชี้ไปที่ 2 บอกเราว่าเวลาผ่านไป 10 นาทีในหนึ่งชั่วโมง

อธิบายว่าเข็มชั่วโมงชี้ไปที่แต่ละชั่วโมงในระหว่างวันอย่างไร หลังจากนั้น ให้อธิบายเข็มนาที เด็กอาจต้องการเวลาในการจดจำตัวเลขเป็นเวลาหลายนาที

แบบฝึกหัดที่ 1 เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ให้ใช้กระดาษหนึ่งแผ่น วาดวงกลมขนาดใหญ่แล้วตัดออก พับครึ่งแล้วพับอีกครั้ง แฉ: การพับจะแบ่งวงกลมออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน ตอนนี้แบ่งแต่ละส่วนจาก 4 ส่วนออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กันโดยทำเครื่องหมายด้วยดินสอ ดังนั้นควรมี 12 ส่วนเท่าๆ กัน หลังจากนั้นให้จดเครื่องหมายและตัวเลข ตัดออก 2 แถบ แบบสั้นและแบบยาวสำหรับมือ

ตอนนี้บนกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้จดเวลาต่างๆ และขอให้ลูกๆ วางชิ้นส่วนบนนาฬิกาอย่างถูกต้อง

✅ เคล็ดลับ อธิบายระยะเวลา 1 ชม. ทันทีที่เข็มเล็กชี้ไปที่ 10 จนถึง 11 จะเป็น 10 ชั่วโมงเต็มและจำนวนนาทีที่กำหนด

คุณสามารถสอนบุตรหลานของคุณให้อ่านตัวเลขโรมันได้หากต้องการ ใช้รูปภาพด้านบนเพื่อขอความช่วยเหลือ ในบางนาฬิกา 4 สามารถเขียนเป็น IIII แทนที่จะเป็น IV และ 9 เป็น VIIII แทนที่จะเป็น IX

แบบฝึกหัดที่ 2 ทำนาฬิกาใหม่แต่ใช้เลขโรมัน เช่นเดียวกับในแบบฝึกหัดที่ 1 ขอให้ลูกของคุณวางมืออย่างถูกต้องโดยขึ้นอยู่กับเวลาที่พวกเขาเห็นบนแผ่นกระดาษ

อย่าคาดหวังให้ลูกทำทุกอย่างอย่างถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก ฝึกทีละนิดทุกวันจนหมดปัญหา

ที่มา: https://lm.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2F5minutecrafts.site%2Fimprove-family%2Fhow-to-explain-to-children-what-time-is-and-how-to-read-a-clock-1537%2F%3Futm_source%3Dtsp_pages%26utm_medium%3Dfb_organic%26utm_campaign%3Dfb_gr_5_minute_crafts_kids&h=AT0gjkngPGwR5FvMf5cFqGYhskOsTgw4y-GuLOyGY4LG6QKX-P9d3zy3CLOKoGOHU2gwljdNDqv-6WMKmpq01QookTInldGN8WgAe-QL46va0pArrROWbz87UI6ciZfUisMn

แปลโดย: krumaiiam.com

นอกจากนี้ท่านยังสามารถ อัพเดต ติดตามข้อมูลข่าวสาร แผนการจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน รวมถึงสาระดีดี ได้ที่ www.krumaiiam.com
Facebook Fanpage : krumaiiam เพราะเราคือครูรุ่นใหม่
Facebook Fanpage : วิถีครูเวร
Facebook Group: แบ่งปันสื่อการสอน by krumai