การเรียนการสอนแบบ Remote Learning

0

การเรียนการสอนแบบ Remote Learning.

สำหรับสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ทุกคนมีการรณรงค์ให้อยู่แต่ในบ้าน ลดการเดินทางและการพบปะกัน ซึ่งหลายคนก็ได้มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ทั้งพนักงานออฟฟิศ ห้างร้านต่างๆ สถานที่บันเทิง บางที่ก็ปิดชั่วขณะ แต่บางที่ก็ได้มีการจัดให้พนักงานได้ work from home กัน

เช่นเดียวกับเด็กๆ ที่ตอนนี้ทางโรงเรียนก็ได้เลื่อนเปิดเทอมออกไปอีก ทำให้หลายโรงเรียนก็เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสำหรับการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆ บ้างแล้ว อย่างการเรียนแบบออนไลน์นั้นเอง

แต่บางพื้นที่การเรียนแบบออนไลน์อาจจะเป็นอะไรที่ยากลำบาก และเราควรจะให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเรียนรู้และทำความรู้จักกับรูปแบบการเรียนการสอนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ครอบคลุมทั้งการเรียนการสอนแบบออนไลน์และออฟไลน์ นั้นก็คือ การสอนแบบ “Remote Learning” นั้นเอง การสอนแบบนี้จะทำให้พื้นที่ห่างไกลสามารถประยุกต์และใช้ได้ตามความพร้อมและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่นั้นๆ ได้ค่ะ แถมอาจจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนจบภาคการศึกษาได้ตามกำหนดกรอบเวลาเดิมได้อีกด้วย

ซึ่งการเรียนแบบ Remote Learning เป็นการเรียนที่ย้ายจากแพลตฟอร์มจากห้องเรียนมาสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ข้อเสียมันก็คือ เด็กๆ จะไม่ค่อยได้โฟกัสหรืออาจจะทำให้การเรียนไม่มีสมาธิได้มากกว่าการเรียนในห้องเรียนนั้นเอง ทำให้คุณครูอาจจะต้องปรับการเรียนการสอนใหม่แบบเรียนวันละวิชา ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิและโฟกันในแต่ละวิชาได้ดีกว่าการเรียนเป็นคาบในห้องเรียนที่ต้องมาเรียนที่บ้านซึ่งทำไ้ด้ยาก

และด้วยความไม่คุ้นชินกับการศึกษาในรูปแบบใหม่นี้ ทำให้นอกจากการพัฒนาบุคลากรที่ต้องพร้อมแล้ว เรื่องอุปกรณ์การเรียนก็มีส่วนสำคัญ คงต้องมีการสำรวจความพร้อมของแต่ละคนว่าพร้อมหรือไม่ รวมถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการติดต่อ ซึ่งทางตัวโรงเรียนอาจจะต้องได้การยอมรับและร่วมแรงร่วมใจทั้ง สถานศึกษา คุณครู ผู้ปกครอง รวมถึงนักเรียนด้วย เพราะนักเรียนแต่ละคนก็ย่อมจะมีความสามารถและความรู้ที่ไม่เท่ากัน ทำให้อาจจะติดขัดได้ในการเรียนรู้นั้นเอง

ซึ่งสิ่งที่จะทำให้การสอนแบบ Remote Learning สำเร็จ ก็อยู่ที่คุณครูค่ะ คุณครูต้องคอยประสานงานกับผู้ปกครอง และต้องจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับเด็กๆ ซึ่งคุณครูแต่ละคนจะทราบดีว่าเด็กอายุเท่าไหร่ควรจะได้เรียนแบบไหนและแต่ละวันเขาจะต้องทำกิจกรรมอะไรบ้าง

นอกจากนี้คุณครูก็ยังต้องพัฒนาทักษะในการสร้างสื่อการเรียนการสอนและการใช้เทคโนโลยีให้ทันโลกอีกด้วย เพราะอาจจะมีคุณครูบางคนที่เขาอายุเยอะแล้วเรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาทำให้อาจจะต้องเรียนรู้เพิ่มทั้งการใช้คอมฯแบบพกพา การสื่อสารทางออนไลน์ การใช้อินเทอร์เน็ต การออกแบบและสร้างสื่อการเรียนรู้แบบดิจิทัล อีกทั้งยังรวมถึงการสืบค้นข้อมูลด้วย ก็ขึ้นอยู่กับคุณครูแล้วล่ะค่ะว่าจะสามารถนำความรู้และเทคโนโลยีมาผสมผสานในการสร้างองค์ความรู้และแผนการสอนได้มากน้อยเพียงใด อาจจะต้องใช้เวลาสักนิดและการปรับตัวสักหน่อยค่ะ

ส่วนคุณพ่อคุรแม่นั้นบางคนอาจจะคิดว่า เอาลูกมาเรียนที่บ้านแบบนี้เราต้องคอยดูเขาตลอดรึเปล่า จริงๆ แล้วไม่ควรที่มาเฝ้าหรือคอยจี้ลูกตลอดเวลานะคะ เพราะจะเป็นการรบกวนสมาธิเด็กๆ เปล่าๆ คุณพ่อคุณแม่ควรที่คอยให้การสนับสนุนเรื่องความสะดวกสบายแทนเสียมากกว่า ทั้งเรื่องอุปกรณ์ สถานที่ในการเรียนของลูก อาหารเช้าและเย็น คอยติดตามหรือกำกับเหมือนเป็นผู้ช่วยคุณครูมากกว่า คอยถามถึงสิ่งที่เรียนในแต่ละวัน หรืออาจจะทำการสรุปการเรียนของลูกให้กับคุณครูอย่างน้อยเป็นสัปดาห์ๆ ไปก็จะดีมากค่ะ

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจทั้งคุณพ่อคุณแม่ คุณครู และเด็กๆ ที่ช่วงนี้อาจจะห่างหายกันไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าเทคโนโลยีในยุคนี้จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตตรงนี้ไปได้อย่างราบรื่นเลยทีเดียวค่ะ

ที่มา starfish academy.

นอกจากนี้ท่านยังสามารถ อัพเดต ติดตามข้อมูลข่าวสาร แผนการจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน รวมถึงสาระดีดี ได้ที่ www.krumaiiam.com
Facebook Fanpage : krumaiiam เพราะเราคือครูรุ่นใหม่
Facebook Fanpage : วิถีครูเวร
Facebook Group: แบ่งปันสื่อการสอน by krumai

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed