|

“ห้องเรียนเปลี่ยนโลก กับแนวคิดของ Google” EP-24

ต่อไปนี้คือบทความฉบับเต็มในหัวข้อที่ 24: **“การใช้ระบบการทำงานแบบ Agile ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้”** ซึ่งต่อยอดจากแนวคิดของ Google ที่นำหลักการจาก Agile Development มาใช้ในการบริหารจัดการนวัตกรรม ผลักดันการทำงานร่วมกันอย่างคล่องตัว และเน้นการปรับตัวจากข้อมูลจริงอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะเชื่อมโยงแนวคิด Agile สู่กระบวนการเรียนรู้ในห้องเรียนเพื่อให้ทันต่อยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงครับ:



# การใช้ระบบการทำงานแบบ Agile ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้
**คล่องตัว ปรับตัวเร็ว เดินหน้าอย่างร่วมมือ ด้วยแนวคิดแบบ Google**

Agile เป็นระบบการทำงานที่เน้น “การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง” โดยมีจุดเด่นคือการแบ่งงานเป็นรอบสั้น ๆ พร้อมประเมินผลร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ Google นำแนวคิดนี้มาใช้ในการบริหารทีมนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น ทีม Google Ads หรือ Android เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ไวและตรงจุด ในการจัดการเรียนรู้ Agile สามารถช่วยให้ครูและนักเรียนจัดกิจกรรมที่ปรับตัวได้เร็ว มีความร่วมมือ และเน้นความก้าวหน้าจากกระบวนการมากกว่าความสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก



## หลักการ Agile จาก Google

– แบ่งกระบวนการเป็นรอบสั้น (Sprint) แล้วปรับปรุงทีละส่วน
– ใช้ “Daily Stand-up” เพื่อรายงานความคืบหน้าในทีม
– มี “Retrospective” เพื่อเรียนรู้จากรอบที่ผ่านมาและปรับกลยุทธ์
– เน้นความโปร่งใส ความร่วมมือ และการฟีดแบ็กเร็ว



## การประยุกต์ใช้ในห้องเรียน

### 1. **แบ่งกิจกรรมเรียนรู้เป็นรอบ (Sprint)**
– กำหนดช่วงกิจกรรม เช่น รอบละ 1–2 สัปดาห์ พร้อมเป้าหมายย่อย

> ✅ ตัวอย่าง: โปรเจกต์วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น 3 Sprint คือ ศึกษา → ทดลอง → สื่อสารผลลัพธ์



### 2. **ประชุมสั้น ๆ เพื่ออัปเดตความคืบหน้า**
– ใช้เวลา 10–15 นาทีให้ทีมรายงานว่า “ทำอะไรไปแล้ว–ติดอะไร–จะทำอะไรต่อ”

> ✅ เทคนิค: ใช้ Google Jamboard หรือบัตรกิจกรรมเพื่อให้การประชุมกระชับและเป็นภาพ



### 3. **สะท้อนผลลัพธ์ (Retrospective) หลังจบแต่ละรอบ**
– วิเคราะห์ว่าอะไรได้ผล อะไรควรปรับ โดยใช้ความเห็นจากนักเรียนทุกคน

> ✅ เครื่องมือ: Mentimeter หรือแบบฟอร์ม Retrospective 3 ช่อง ได้แก่ ดีแล้ว, ปรับปรุงได้, อยากลองใหม่



## กิจกรรมเรียนรู้แบบ Agile

| กิจกรรม | จุดเด่น |
|———————–|—————————–|
| Sprint-Based Project | วางเป้าหมายชัดเจนเป็นช่วงสั้น ๆ |
| Daily Stand-up Circle | ส่งเสริมการสื่อสารในทีมอย่างรวดเร็ว |
| Retrospective Reflection | ฝึกการคิดวิเคราะห์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง |
| Scrum Role Play | ฝึกบทบาท “Product Owner”, “Scrum Master” เพื่อฝึก Soft Skills |



## ✨ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

– ผู้เรียนมีทักษะการวางแผน การทำงานร่วมกัน และการจัดการเวลา
– ครูสามารถติดตามการเรียนรู้ได้แบบเรียลไทม์
– กิจกรรมมีความยืดหยุ่น ปรับได้ตามบริบทและความพร้อม
– เกิดวัฒนธรรมแห่งการฟีดแบ็กและการปรับตัวโดยไม่กลัวความล้มเหลว



## สรุป

“Agile” ไม่ใช่เพียงระบบการทำงานในองค์กรเทคโนโลยี แต่เป็นแนวคิดที่ช่วยให้การเรียนรู้คล่องตัว ยืดหยุ่น และเน้นการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ครูในบทบาท Facilitator สามารถนำ Agile มาออกแบบกิจกรรมที่ไม่จำเจ สร้างทีมการเรียนรู้ที่กล้าเปลี่ยนแปลง และสนุกกับการเรียนรู้ทีละขั้นอย่างมีจุดหมาย



Similar Posts